เลือกครีมทาฝ้าที่ดีที่สุด – ให้หายขาดเลือกอย่างไร?
“ฝ้า” ได้กลายมาเป็นภัยร้ายสำหรับปัญหาผิวพรรณของใครหลายคน ที่ไม่เพียงทำให้หน้าดูโทรม ไม่เนียนใส หรือดูมีอายุก่อนวัยเท่านั้น แต่ “ฝ้า” ยังได้ทำลายความมั่นใจ เนื่องจากจุดด่างดำเป็นปื้นขึ้นมาที่บริเวณต่างๆทั่วใบหน้า แถมยังยากต่อการรักษา และในปัจจุบันก็ได้มีครีมรักษาฝ้ามากมายในท้องตลาดแล้วเราจะเลือกอย่างไรดี? เราจึงจะขอแนะนำวิธีในการเลือกพร้อมแนะนำครีมทาฝ้ายอดนิยมในท้องตลาดในตอนนี้
วิธีการในการเลือกครีมทาฝ้า
การเลือกซื้อครีมทาฝ้านั้นสามารถที่จะเลือก โดยมีหลักการในการเลือกซื้อดังต่อไปนี้
1) ครีมทาฝ้ายับยั้งการผลิตเม็ดสี – ลำเลียงเม็ดสีหรือไม่?
ฝ้าคือเม็ดสีที่ผลิตขึ้นมามากกว่าปกติและได้ถูกลำเลียงขึ้นมาอยู่บนชั้นผิว โดยโรงงานผลิตเม็ดสีนั้นมีอยู่ในร่างกายเราเองโดยเป็นเซลล์ที่มีชื่อว่าเมลาโนไซต์ ตราบใดที่เซลล์ผลิตเม็ดสีตัวนี้ยังผลิตขึ้นมาไม่หยุด ปัญหาฝ้าก็จะไม่จบ เพราะในท้ายที่สุดฝ้าก็จะถูกผลิตและลำเลียงกลับมาใหม่ และอาจจะรุนแรงมากกว่าเดิมด้วย นี้จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทาครีมทาฝ้าทั่วไปแล้วมักจะไม่ค่อยเห็นผล เพราะครีมทาฝ้าทั่วไปเหล่านั้นมักจะผลัดเซลล์ผิวด้านบน ซึ่งเป็นเพียงแค่การแก้ไขปัญหาปลายเหตุ แต่ไม่ได้หยุดโรงงานตัวนี้ หรือแม้แต่การทำเลเซอร์ก็เป็นเพียงการสลายเม็ดสีออกไปเช่นกันนั้นคือการแก้ที่ปลายเหตุซึ่งผลลัพธ์ก็คือในอนาคตฝ้าจะต้องกลับมาเป็นอีกครั้งอย่างแน่นอน ในการเลือกครีมทาฝ้าที่ดีควรที่จะเลือกครีมที่มีความสามารถในการยับยั้งการผลิตเม็ดสี และการลำเลียงเม็ดสีเพื่อการจัดการฝ้าที่หายขาด สารที่มีความสำคัญในกลุ่มนี้จะมีอาธิเช่น
อัลฟ่า อาร์บูติน (Alpha Arbutin)
เป็นส่วนประกอบที่นิยมใส่ในเนื้อครีม เพื่อให้ผิวขาว กระจ่างใสมากขึ้น ทั้งยังช่วยยับยั้งการออกซิเดชั่น(Oxidation)ของเอนไซม์ในร่างกาย ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยยับยั้งเม็ดสีเมลานินโดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาการเกิดฝ้าที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง
กรดโคจิก(Kojic Acid)
มีส่วนช่วยในการยับยั้งการสร้างเมลานินในเซลล์เมลาโนไซต์ในชั้นล่างสุดของชั้นหนังกำพร้า เพิ่มความขาว กระจ่างใสให้กับผิวได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยแก้ปัญหาสีผิวที่เข้มขึ้นจากการสร้างเม็ดสีมากจนเกินไป จนทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้ด้วย
Ectoin
กรดอะมิโน (post-biotic) ช่วยฟื้นคืนความแข็งแรงให้เกราะปกป้องผิว (barrier function) และช่วยลดการสะสมของสารอนุมูลอิสระบนผิว อันเนื่องมาจากความร้อน แสง UV และอนุมูลอิสระจากภายนอก
2) มีความสามารถในการผลัดเซลล์ผิวหรือไม่?
การผลัดเซลล์ผิว เป็นการเปลี่ยนแปลงเซลล์ผิวจากเซลล์เก่าไปเป็นเซลล์ใหม่ ยิ่งชั้นผิวใหม่เกิดขึ้นมาเร็วเท่าไหร่การที่ฝ้าจางลงก็จะเร็วมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งโดยปกติร่างกายจะมีกระบวนการดังกล่าวนี้อยู่แล้ว แต่อาจจะช้า ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เร็วขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าต้องอาศัยครีมที่มีส่วนผสมหลักที่เข้มข้นสูงและปลอดภัย ส่วนผสมที่มีประสิทธิ์ภาพดีที่มักจะอยู่ในกลุ่มนี้มักจะเป็น Phytic Acid, BHA, Ascorbic Acid เป็นต้น ซึ่งจะมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว โดยสารกลุ่มนี้เราสามารถที่จะสังเกตข้างฉลากได้ ซึ่งมักจะมีคำว่า acid ประกอบเสมอ
3) ไม่มีสารอันตราย
ครีมทาฝ้าในปัจจุบันบางเจ้าจะมีการแอบใส่สารที่อันตราย ซึ่งครีมกลุ่มนั้นให้พยายามที่จะหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มครีมราคาถูกที่เคลมสรรพคุณฝ้าหายใน 7 วัน, 14 วัน ซึ่งเป็นคำเคลมที่เกินจริงและน่ากลัวเป็นอย่างมาก ครีมกลุ่มนี้มักผสมสารอันตรายที่ผิดกฏหมายลงไปไม่ว่าจะเป็น ไฮโดรควิโน, รดไตรคลอโร, ปรอท ซึ่งสารกลุ่มพวกนี้จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาวไม่เพียงแต่ทำให้ผิวเกิดอาการแพ้หรือมีการระคายเคืองเท่านั้น แต่อาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง, อาการขาวด่างถาวร เป็นต้น โดยสามารถป้องกันได้เบื้องต้นโดยการมองหาเลขทะเบียน อย. เพื่อทำการตรวจสอบก่อนเสมอ
4) อยู่มาอย่างยาวนาน – มีชื่อเสียงที่ดีและได้รับการยอมรับในระดับประเทศ – โลก
มีแบรนด์ครีมมากกว่า 1,000 แบรนด์เกิดขึ้นมาใหม่ทุกวัน มีทั้งที่ล้มหายไป และแบรนด์ที่อยู่รอดในระยะยาว ดังนั้นการที่แบรนด์เหล่านั้นสามารถที่จะทำธุรกิจมาอย่างยาวนาน เป็นแบรนด์ที่ควรค่าที่จะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ซึ่งนั้นสามารถที่จะตีความได้ว่าแบรนด์เหล่านั้นจะต้องมีความพิเศษอะไรบางอย่างจนทำให้ลูกค้าให้การยอมรับและเชื่อมั่นในระยะยาว เฉกเช่นเดียวกันกับร้านอาหาร, เสื้อผ้า, โรงพยาบาล หรือแบรนด์ในธุรกิจอื่นๆ การที่แบรนด์นั้นทำธุรกิจมายาวนานย่อมที่จะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า โดยให้เราลองพิจารณาดูอายุของแบรนด์นั้นว่าอยู่มายาวนานขนาดไหนเพิ่มเติม
และสิ่งที่สามารถพิจารณาเพิ่มเติมได้อีกก็คือชื่อเสียงเหล่านั้นมีมากขนาดไหน เพราะแบรนด์มีตั้งแต่ แบรนด์ระดับท้องถิ่น, ระดับประเทศ, ระดับโลก ยิ่งชื่อเสียงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น เพราะนั้นหมายถึงแบรนด์นั้นเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมีโอกาสสูงที่จะเห็นผล
5) รีวิวและผลลัพธ์
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นมากที่สุด เพราะแน่นอนว่าทุกคนเลือกครีมทาฝ้าก็ต้องการผลลัพธ์ที่หายจากฝ้า แต่นี้ก็เป็นสิ่งที่พิจารณาได้ยากที่สุดเช่นกัน เพราะว่าการปลอมแปลงรีวิวนั้นเกือบจะเรียกว่าเป็นเรื่องปกติในวงการเครื่องสำอาง แม้ประโยคนี้ฟังดูแย่และไม่ซื่อสัตย์ แต่เราอยากบอกทุกคนว่าเรื่องนี้จริงยิ่งกว่าจริง เพราะทุกเจ้าก็ล้วนอยากที่จะขายได้ ทุกเจ้าเลยต้องพยายามบอกว่าสินค้าตัวเองดี ทุกแบรนด์มีรีวิวหมดว่าฝ้าหาย แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีแบรนด์ไหนที่ไม่มีรีวิว แล้วเราจะพิจารณาอย่างไร?
สิ่งที่สามารถที่จะใช้พิจารณาเพิ่มเติมได้นั้นก็คือ “คลิปวิดีโอ” เหตุผลนั้นก็เพราะว่าวิดีโอนั้นเป็นสื่อที่ปลอมแปลงยาก แตกต่างจากบทความหรือรูปภาพที่ใครจะทำขึ้นมาก็ได้ ใช้โปรแกรมแต่งรูปในมือถือจิ้มไม่กี่ทีก็เสร็จ แต่วิดีโอยากกว่านั้น เพราะคลิปวิดีโอมีการเคลื่อนไหวตลอดทำให้ปลอมแปลงยาก ดังนั้นเราสามารถที่จะใช้ส่วนนี้พิจารณาเพิ่มเติมได้ ด้วยเหตุนี้เองเราจึงเห็นภาพรีวิวแบบภาพมากกว่าแบบวิดีโอหลายเท่าตัวด้วยเหตุผลนี้นั้นเอง
และนอกเหนือจากวิดีโอแล้ว สิ่งที่มีความสำคัญที่ควรจะพิจารณาเพิ่มเติมนั้นก็คือเรื่องของเนื้อหาของวิดีโอ มันก็ไม่ควรเป็นการที่คนมาถือหรือคนดังมาถือและพูด เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าสามารถที่จะจ้างกันได้หมด ไม่เว้นแม้แต่ดารา แต่สิ่งที่น่าเชื่อถือมากที่สุดก็คือ การที่คนจริงๆ ลูกค้าจริงๆ ลองใช้ครีมตัวนั้นเลย ยิ่งถ้าเกิดว่าเราเห็นเป็นการรีวิวรายวันโดยลูกค้าจริงๆได้จะยิ่งเป็นสิ่งที่ดี และถ้าหากว่าครีมนั้นมีรีวิวเพิ่มเติมจากต่างประเทศได้ยิ่งดี เพราะการปลอมแปลงรีวิวจากต่างประเทศนั้นทำได้ยากมากนั้นเอง
รีวิวเปรียบเทียบครีมทาฝ้ายอดนิยม
แล้วครีมทาฝ้าตัวไหนบ้างที่น่าสนใจ? ความจริงครีมทาฝ้ามีเยอะมากเป็นพันแบรนด์เราก็ไม่เคยลองใช้ทุกตัว ไม่สามารถที่จะฟันธงได้ว่าตัวไหนดีที่สุด แต่ขอเลือกมา 2 แบรนด์ที่น่าสนใจและตรงตามเกณฑ์ด้านบนที่เราได้พูดมา
ครีมทาฝ้า Cosmelan ยี่ห้อ Mesoestetic
ครีมทาฝ้าที่โด่งดังมากในตอนนี้ที่จะลืมไปไม่ได้เลยคือ Cosmelan จากแบรนด์ Mesoestetic นำเข้ามาจากประเทศสเปน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าระดับ Medical Grade ที่มีการวิจัย ค้นคว้าและพัฒนามากว่า 38 ปี ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย จำหน่ายแล้วมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก มากกว่า 1 ล้านชุด หากพูดถึงครีมทาฝ้าที่ปังและเห็นผลจริง Cosmelan คืออันดับของโลก 1 ตัวจริง
การทำงานของ Cosmelan สามารถยับยั้งตั้งแต่ต้นตอการเกิดฝ้าคือในการผลิตเม็ดสี ทั้งยังช่วยยับยั้งกระบวนการขนส่งเม็ดสีจากด้านล่างสู่ผิวชั้นบนทำให้ช่วยลดการสะสมของเม็ดสี และมีการผลัดเซลล์ผิว มาแบบเป็นเซ็ทที่รักษาแบบจบครบกระบวนการซึ่งทาง แบรนด์เคลมว่าสามารถกำจัดฝ้า กระ จุดด่างดำที่ฝังลึกมานานหลายปีได้มากถึง 81% ไม่เพียงเท่านั้นยังลดการเกิดใหม่ของเม็ดสีเมลานินได้ภายใน 48 ชั่วโมง เรียกได้ว่าฝ้าหายได้โดยไม่ต้องทำเลเซอร์แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ด้วยเทคโนโลยีของ cosmelan มาพร้อม solution ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนที่มองหาการรักษาที่บ้านด้วยผลลัพธ์แบบมืออาชีพ ในราคาเพียงเสี้ยวเดียวของการทำเลเซอร์
ภายในชุดเป็นการการรักษาแบบครบวงจร โดยในเซ็ตของเขาจะมีรายละเอียดและส่วนผสมดังนี้
- Cosmelan 1
เป็นมาส์กที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าบริเวณผิวชั้นนอก เพื่อลดฝ้ากระบนผิว ด้วยส่วนผสมสำคัญ อาทิเช่น กรดโคจิก(Kojic Acid) ช่วยยับยั้งการสร้างเมลานินในเซลล์เมลาโนไซต์ในชั้นล่างสุดของชั้นหนังกำพร้า เป็นสารเพิ่มความขาว กระจ่างใสให้ผิว,อัลฟ่า อาร์บูติน (Alpha Arbutin) - Cosmelan 2
ช่วยในการลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำได้อย่างต่อเนื่องภายหลังจากที่ใช้ Cosmelan 1 เพื่อป้องกันรอยดำที่จะเกิดขึ้นมาใหม่และป้องกันรอยดำซ้ำ ช่วยคงไว้ซึ่งผลลัพธ์ที่ดีมากกว่าในระยะยาว - melan recovery
เป็นบาล์มบำรุงผิวสูตรเข้มข้น ที่ช่วยปลอบประโลมผิวและช่วยฟื้นบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกหลังจากที่ทำทรีทเม้นท์ที่เป็นเพื่อช่วยลดการระคายเคือง พร้อมเป็นเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง และให้ความชุ่มชื้นต่อผิว ใช้ควบคู่กับ cosmelan2 โดยมีส่วนประกอบสำคัญคือ เอคโตอินซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยฟื้นคืนความแข็งแรงให้เกราะปกป้องผิว และช่วยลดการสะสมอนุมูลอิสระบนผิวได้ดี, สารสกัดจากสาหร่ายสีแดง ช่วยปลอบประโลมผิวและบรรเทาอาการแดงของผิว,สควาเลนน้ำมันชนิดเดียวกันกับผิว ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้ผิว เสริมเกราะปกป้องผิว, สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองของผิว ปลอบประโลมผิวให้ผ่อนคลาย ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นยังอุดมไปด้วย Vitamin B3 ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสมากขึ้น , Shea butter ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม เสริมเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง และพรีไบโอติกช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์บนผิวให้สมดุล ซึ่งจะช่วยให้เกราะปกป้องผิวแข็งแรงขึ้นด้วย - melan 130 pigment control
ครีมกันแดดประสิทธิภาพสูงช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV (UVA & UVB) ความโดดเด่นของครีมตัวนี้ก็คือมี SPF สูงถึง 130 เลยทีเดียว ช่วยในการป้องกันแสงแดดเข้ามาทำร้ายระหว่างใช้ cosmelan เพื่อช่วยในการปกป้องอย่างมีประสิทธิ์ภาพ โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญคือ กรดอะเซลาอิกช่วยป้องกันรอยหมองคลํ้าหรือจุดด่างดํา ที่มีสาเหตุมาจากแสงแดด และSunflower seed oil (NMF) รักษาความชุ่มชื้นผิวตามธรรมชาติ
จุดเด่น
- เป็นครีมที่ช่วยดูแลฝ้าอย่างตรงจุด ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการเกิดฝ้า, การลำเลียง และการผลัดเซลล์ผิว เรียกได้ว่าเป็นครีมไม่กี่ตัวในท้องตลาดที่มีความสามารถระดับนี้ ทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวหน้าจากปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใส เป็นหนึ่งในไม่มีครีมที่ต้องลอง
- ชื่อเสียงยาวนานน่าเชื่อถือ ในด้านชื่อเสียงไม่ต้องกังวลอะไรมาก
- และที่พูดไม่ได้ก็คือราคาจัดว่าพอตัว แต่จากที่ลองมาเยอะ ครีมตัวนี้จบได้จริงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เรียกว่าเจ็บแต่จบ
ตัวอย่างรีวิว
ครีมทาฝ้ายี่ห้อ Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter
Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter เป็นเซรัมสูตรเข้มข้นแบรนด์ดังอย่าง Clinique ที่สามารถจัดการกับจุดด่างดำได้อย่างตรงจุดด้วยเทคโนโลยีสูตรพิเศษ CL-302 Equalizer Technology โดยแยกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ CL-302 Complex และ Interrupter Complex โดยมีเป้าหมายเพื่อมุ่งเน้นสู่การมีผิวสุขภาพดี ภายใต้ปรัชญาขั้นพื้นฐานที่ว่า “ผิวดีสามารถสร้างได้” โดยได้รับการทดสอบว่าอ่อนโยนและปลอดภัยสำหรับทุกสภาพผิว วางขายกว่า 130 ประเทศทั่วโลก โดยเนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเซรัมเบสน้ำและซิลิโคนสีเหลืองอ่อนๆ ซึ่งสูตรใหม่นี้มีส่วนผสมของสารไวท์เทนนิ่งที่เข้มข้นมากกว่าเดิม ทำงานในหลายกลไก ช่วย ทำงานในปลอบประโลม ลดการระคายเคือง และปกป้องผิว ซึ่งในส่วนประกอบหลักอย่าง CL-302 Complex ประกอบไปด้วยส่วนผสม 5 ชนิดที่มีประสิทธิภาพในการลดเลือนฝ้า ไม่ว่าจะเป็น
- Dimethoxytolyl Propylresorcinol หรือ Nivitol™ (UP-302) ซึ่งเป็นสารที่ได้มาจากต้น Dianella ensifolia มีสรรพคุณช่วยลดการสร้างเมลานินที่ก่อความหมองคล้ำและจุดด่างดำและด้วยคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ
- Ascorbyl Glucoside เป็นอนุพันธ์วิตามินซีที่มีความเสถียร ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และใช้เป็นไวท์เทนนิ่งกันมาอย่างยาวนาน
- Acetyl Glucosamine มีคุณสมบัติช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
- Salicylic Acid หรือ BHA ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
ในส่วนของ Interrupter Complex นั้นประกอบไปด้วยส่วนผสมหลายชนิด เช่น Camellia Sinensis Leaf Extract ซึ่งเป็นสารสกัดชาเขียวเกรดพรีเมี่ยม มีคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิวที่ดี นอกจากนั้นยังมีส่วนผสมที่มีคุณสมบัติเป็นไวท์เทนนิ่งด้วย ไม่ว่าจะเป็น Glycyrrhetinic Acid จากรากชะเอม กับ Morus Bombycis (Mulberry) Root Extract จากรากต้นหม่อน Scutellaria Baicalensis Root Extract ช่วยต้านการอักเสบและผลกระทบจากมลภาวะ รวมไปถึงสารสกัดจาก Trametes Versicolor Extract หรือเห็ดหางไก่งวง ช่วยปลอบประโลมผิว
จุดเด่น
- จัดการกับปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำได้อย่างตรงจุดด้วยเทคโนโลยี CL-302 Equalizer Technology ช่วยลดโอกาสในการเกิดจุดด่างดำและความหมองคล้ำที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างอ่อนโยนและมีประสิทธิภาพ พร้อมบำรุงผิวให้กระจ่างใส และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- มั่นใจในความปลอดภัย ด้วยส่วนผสมที่มีความอ่อนโยน โดยไม่มีส่วนผสมของพาราเบน น้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว
- สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาจุดด่างดำและผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
ตัวอย่างรีวิว
หวังว่าเพื่อนๆจะได้ประโยชน์จากบทความนี้แล้วพบกันใหม่ที่บทความหน้าค่ะ สวัสดี!